การออกแบบงานวิศวกรรมโครงสร้าง เหล็กรูปพรรณ (STRUCTURAL STEEL ENGINEERING DESIGN หรือ SSE)
ก่อนอื่นผมขอทวนคำถามก่อนสักนิดนะครับ “ประเภทของโครงถักใดที่จะสามารถรับ นน ในแนวดิ่งได้ดีกว่ากัน ?” และเมื่อวานผมได้อธิบายไปแล้วว่าเราควรที่จะสามารถทำการแบ่งโครงถักออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
(1) แบบที่ TOP และ BOTTOM คอร์ดนั้นมีการวางตัวขนานกันตามแนวราบ แต่ เรียบสม่ำเสมอตลอดความยาวของโครงถัก
(2) แบบที่ TOP และ BOTTOM คอร์ดนั้นมีการวางตัวขนานกันตามแนวเอียง แต่ เรียบสม่ำเสมอตลอดความยาวของโครงถัก\
(3) แบบที่ TOP และ BOTTOM คอร์ดนั้นไม่ได้วางตัวขนานกัน ดังนั้น ท้องของโครงถักจะมีความเรียบสม่ำเสมอ แต่ ที่ด้านบนจะเกิดเป็น SLOPE ไม่สม่ำเสมอตลอดความยาวของโครงถัก
ซึ่งเมื่อวานผมได้ทำการอธิบายถึงหัวข้อที่ (1) ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในวันนี้ผมจะขออนุญาตมากล่าวถึงหัวข้อที่ (2) และ (3) กันต่อนะครับ
จริงๆ แล้วเราสามารถที่จะนำหลักการที่ผมกล่าวถึงในห้อข้อที่ (1) มาใช้สำหรับโครงถักในหัวข้อที่ (2) และ (3) ได้นะครับ เพราะ ต้องถือว่าหลักการๆ นี้เป็นหลักการโดยทั่วไปของโครงสร้างรับแรงดัดทุกๆ ประเภท (เพื่อนๆ ดูรูปประกอบได้นะครับ) แต่ สาเหตุที่ผมตั้งใจจะนำหัวข้อที่ (2) และ (3) แยกออกมาเป็นเพราะว่าจะมีอีกหลักการหนึ่งที่เพื่อนๆ ควรต้องทราบหากว่าโครงถักของเรานั้นมี “ความเอียงตัว” เกิดขึ้น เพราะ “ความเอียง” หรือว่า “SLOPE” ที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้การแตกแรงในชิ้นส่วนนั้นแปรเปลี่ยนไป กล่าวคือ หากว่าระนาบความเอียงในโครงถักนั้นเกิดขึ้นมากกว่าหรือเท่ากันกับมุม 45 องศา ก็จะทำให้การแตกแรงในชิ้นส่วนทั้งใน แนวราบ และใน แนวดิ่ง นั้นออกมามีค่าเท่ากัน
ซึ่งโดยทั่วไปเราจะหาหลังคาใดๆ ที่มีมุมเอียงถึง 45 องศา นั้นได้ยากมากๆ ดังนั้นหลักการที่จะมี “ประสิทธิภาพ” มากที่สุดในการที่จะบอกกับเราว่าโครงถักใดที่จะมีประสิทธิภาพในการรับแรงได้มากที่สุด ก็ยังคงเป็นเรื่องหลักการของ “DEPTH” อยู่ดีนะครับ นี่เองคือสาเหตุว่าเหตุใดผมจึงได้เน้นย้ำกับเพื่อนๆ ไปว่าประเด็นที่เรากำลังพูดถึงในที่นี้จะเป็นเฉพาะกลไกใน การรับกำลัง ของตัวโครงถักเท่านั้นนะครับ เพราะ เราต้องไม่ลืมว่าในความเป็นจริงนั้นยิ่งเราเพิ่ม DEPTH ของโครงถักให้มีค่าเพิ่มมากขึ้นเท่าใด ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในโครงถักของเราก็จะมีความชะลูดเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นในการออกแบบจริงๆ นั้นยังมีเหตุและปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่ทางผู้ออกแบบนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาคำนึงถึงในการออกแบบด้วยนะครับ
หวังว่าความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่ผมได้นำมาฝากแก่เพื่อนๆ ทุกๆ ท่านในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อย และ จนกว่าจะพบกันใหม่นะครับ
ref : https://www.facebook.com/bhumisiam
BSP-Bhumisiam
ผู้ผลิตรายแรก SPUN MICRO PILE
1) ได้รับมาตรฐาน มอก. มาตราฐาน397-2524 เสาเข็ม Spun Micro Pile
2) ผู้ผลิต Spun Micro Pile ที่ได้รับ Endorsed Brand รับรองคุณภาพมาตราฐาน จาก SCG
3) ผู้นำระบบ Computer ที่ทันสมัยผลิต เสาเข็ม Spun Micro Pile
4) ลิขสิทธิ์เสาเข็ม Spun Micro Pile
5) เทคโนโลยีการผลิต จากประเทศเยอรมันนี
6) ผู้ผลิต Spun Micro Pile แบบ “สี่เหลี่ยม”
7) การผลิตคอนกรีตและส่วนผสม ใช้ Program SCG-CPAC
เสาเข็ม สปันไมโครไพล์ ช่วยแก้ปัญหาได้เพราะ
1) สามารถทำงานในที่แคบได้
2) ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียง
3) หน้างานสะอาด ไม่มีดินโคลน
4) สามารถรับน้ำหนักได้ 20-40 ตัน/ต้น
5) สามารถตอกชิดกำแพง ไม่ก่อให้โครงสร้างเดิมเสียหาย
สนใจติดต่อสินค้า เสาเข็ม ไมโครไพล์ (Micropile)
สปันไมโครไพล์ (Spun MicroPile) มาตรฐาน มอก.
ติดต่อ สายด่วน โทร :
081-634-6586
082-790-1447
082-790-1448
082-790-1449
ID LINE :
LINE ID1 = bhumisiam
LINE ID2 = 0827901447
LINE ID3 = 0827901448
LINE ID4 = bsp15
บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด
http://www.ไมโครไพล์.com
#Micropile
#SpunMicropile
#ไมโครไพล์
#สปันไมโครไพล์
#เสาเข็มไมโครไพล์
#เสาเข็มสปันไมโครไพล์